อาการปวดหลัง เป็นสิ่งที่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น เด็ก หรือวัยรุ่นที่เล่นกีฬาอย่างหนัก วัยทำงานที่ต้องใช้เวลาทั้งวันไปกับการนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือวัยสูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากการที่มีอวัยวะ หรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกายบริเวณหลัง เช่น หมอนรองกระดูกสันหลัง ข้อกระดูกสันหลัง กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ได้รับบาดเจ็บ เสื่อม อักเสบ หรือเกิดภาวะเคล็ดขัดยอก จนทำให้เกิดอาการปวดตามมา
สำหรับใครที่มีอาการปวดที่บริเวณหลังบ่อย ๆ แล้วสงสัยว่า อาการปวดที่เกิดขึ้นเกิดจากสาเหตุอะไร หรือกำลังมองหาวิธีรักษาอยู่ ในบทความนี้ The Commons Clinic จะพาคุณไปรู้จักกับอาการปวดหลังแต่ละส่วน พร้อมวิธีรับมือเอง
อาการปวดหลังที่พบได้บ่อย ๆ จะแบ่งเป็น 5 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ส่วนบน ส่วนกลาง ส่วนล่าง ด้านซ้าย และด้านขวา ซึ่งแต่ละส่วนจะมีสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้
ปวดหลังส่วนบน เป็นอาการปวดที่พบได้บ่อยมาก เพราะมีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เป็นระยะเวลานาน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ชอบทำกัน นอกจากนี้คนที่สะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนักมากเกินไปบ่อย ๆ ก็สามารถทำให้เกิดอาการปวดได้เช่นกัน
อาการปวดบริเวณหลังส่วนกลาง อาจเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
ปวดหลังส่วนล่าง เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดในวัยทำงานและวัยสูงอายุเลย เพราะมีสาเหตุมาจากการมีพฤติกรรมนั่ง หรือยืนในท่าเดิมนาน ๆ โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนท่า ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนล่างเกิดการตึงเกร็งบ่อย ๆ จนทำให้เกิดอาการอักเสบ และอาการปวดตามมาได้ในที่สุด
นอกจากนี้อาการปวดที่บริเวณหลังส่วนล่างยังสามารถเกิดจากการที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปด้วย ซึ่งส่งผลให้กระดูก สันหลังและกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนล่างต้องพยุงน้ำหนักมากกว่าปกติ และเกิดอาการอ่อนล้าเรื้อรัง จนทำให้เกิดอาการปวดได้นั่นเอง
อาการปวดหลังด้านซ้าย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
อาการปวดหลังด้านขวาจะมีสาเหตุคล้าย ๆ กับอาการปวดที่บริเวณหลังด้านซ้าย แต่จะเกิดขึ้นกับกระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ที่บริเวณลำตัวข้างขวาแทน
หากอาการปวดหลังเกิดขึ้นนาน ๆ ครั้ง นอนพัก หรือไปนวดผ่อนคลายก็หายดี ก็คงไม่น่ากังวลเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการปวดที่บริเวณหลังเป็นประจำ หรือมีอาการปวดมาก นั่นอาจไม่ใช่อาการปวดธรรมดา แต่อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติบางอย่างในร่างกายได้ก็ได้ เช่น
ผู้หญิงหลายคนอาจมีอาการปวดหลังแบบเรื้อรัง หรือปวดหลังล่างในช่วงที่มีประจำเดือนได้ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
หากสาว ๆ มีอาการปวดหลังบ่อย ๆ ไปนวด หรือทำกายภาพบำบัดแล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอีกครั้ง เพราะอาจเกิดจากโรคทางนรีเวชเหล่านี้ได้
วิธีแก้ปวดหลังให้อาการดีขึ้น สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงเริ่มต้นจากการหันกลับมาดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเอง และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
หากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามวิธีแก้ปวดหลังที่เราแนะนำไป แล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการปวดบริเวณหลังเรื้อรังนานกว่า 4 สัปดาห์ขึ้นไป แนะนำให้พบนักกายภาพบำบัด หรือแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูอย่างเหมาะสมจะดีกว่า ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะจะยิ่งทำให้อาการปวดรุนแรงขึ้นได้
นอกจากนี้ หากคุณมีอาการปวดบริเวณหลังร่วมกับอาการเหล่านี้ ก็ควรรีบไปพบแพทย์เช่นกัน ได้แก่
แนวทางการรักษาอาการปวดหลังนั้น จะขึ้นอยู่กับสาเหตุ และระดับความรุนแรงของอาการปวดของแต่ละคน เช่น
The Commons Clinic คลินิกเฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู และ กายภาพบำบัด ที่ดูแลโดยทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัด พร้อมช่วยให้อาการปวดหลังของคุณได้รับการรักษาอย่างตรงจุดและดีขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องใช้ยา และไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการประเมินอาการและวางแผนการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเลือกใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดที่ทันสมัย เช่น เครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS หรือ เครื่องรักษาด้วยคลื่นกระแทก Shock Wave ในการรักษา มั่นใจได้เลยว่า อาการจะดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำอย่างแน่นอน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้าใช้บริการ The Commons Clinic ได้ที่ :