ปวดเข่า เข่าเสื่อม เข่าอักเสบ (Osteoarthritis of the Knee)

The Commons Clinic สรุปให้!

  • โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมและสึกหรอของผิวกระดูกอ่อนข้อเข่า ซึ่งผิวกระดูกอ่อนนี้ ในภาวะปกติทำหน้าที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวของข้อที่เรียบลื่น ไม่ติดขัด และทำหน้าที่เป็นส่วนรองรับน้ำหนักของร่างกาย
  • เช็กสุขภาพร่างกายโดยนักกายภาพบำบัด พร้อมวางแผนฟื้นฟูอาการเจ็บปวดเฉพาะคุณได้แล้ววันนี้ ที่ไลน์ @thecommonsclinic หรือโทร 094-694-9563

โรคข้อเข่าเสื่อม แทบจะกลายเป็นคำคุ้นเคยสำหรับผู้สูงอายุ แต่ในทุกวันนี้ที่วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลง ความสะดวกสบายต่างๆ รวมถึงอาหารการกิน ส่งผลให้โรคข้อเข่าเสื่อมมาเยี่ยมเยือนได้เร็วขึ้น ปัจจุบันเราไม่ได้พบอาการข้อเข่าเสื่อมในกลุ่มผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียว แต่ในกลุ่มผู้ใหญ่ที่อายุ 45 ปีขึ้นไปก็มีโอกาสเกิดโรคได้เช่นกัน

สำหรับท่านใดที่มีอาการปวดเข่า แล้วไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจัดการกับอาการที่เกิดขึ้นอย่างไรดี?  thecommonsclinic.com จะพาคุณไปหาคำตอบเอง อ่านได้เลยที่บทความนี้!

ปวดเข่า เข่าเสื่อม เข่าอักเสบ โรคข้อเข่าเสื่อม คืออะไร?

โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมและสึกหรอของผิวกระดูกอ่อนข้อเข่า ซึ่งผิวกระดูกอ่อนนี้ ในภาวะปกติทำหน้าที่ช่วยให้การเคลื่อนไหวของข้อที่เรียบลื่น ไม่ติดขัด และทำหน้าที่เป็นส่วนรองรับน้ำหนักของร่างกาย

อาการข้อเข่าเสื่อมจะส่งผลให้เกิดการอักเสบของกระดูกอ่อนผิวข้อและเยื่อหุ้มข้อ ทำให้ความสามารถในการสร้างน้ำไขข้อลดลง หรือสูญเสียคุณสมบัติของน้ำไขข้อไป ส่งผลย้อนกลับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระดูกอ่อนผิวข้อบางลง และอาจหายไปทั้งหมด

ในผู้ป่วยที่ข้อเสื่อมขั้นรุนแรง ผิวข้อจะเกิดความขรุขระไม่เรียบลื่น มีกระดูกงอกเกิดขึ้นบริเวณรอบๆ ข้อ เกิดการโก่งงอเสียความสมดุลของข้อเข่ามากขึ้นเรื่อยๆ ตามระดับความรุนแรงของโรคที่เป็นมากขึ้น

ปวดเข่า เข่าเสื่อม เข่าอักเสบ โรคข้อเข่าเสื่อม สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง?

  1. ผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปจะเริ่มมีอาการปวดเข่า เข่าเสื่อม พบว่าโรคข้อเข่าเสื่อมจะเป็นในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
  2. ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก เป็นโรคอ้วนจะยิ่งเพิ่มโอกาสการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมไวยิ่งขึ้น
  3. การใช้งานขาและหัวเข่าผิดท่า หรืออยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน เช่น การก้มยกของ คุกเข่า นั่งพับเพียบ เดินขึ้นบันได นั่งขัดสมาธิ ฯลฯ
  4. เคยเกิดอุบัติเหตุกับหัวเข่า เช่น รถชน หัวเข่ากระแทกจากการอุบัติเหตุหรือการเล่นกีฬา ฯลฯ
  5. โรคข้อเข่าเสื่อมจากพันธุกรรม

อาการของโรคข้อเข่าเสื่อมแบ่งได้ 2 กลุ่มอาการ ได้แก่

  1. อาการที่เกิดจากลักษณะทางกายภาพที่ผิดปกติไปของข้อเข่าที่เสื่อม จะส่งผลให้เกิดการผิดรูปของข้อเข่า (โก่งเข้าใน-ออกนอก) หรือ ส่งผลต่อการใช้งาน การขยับเคลื่อนไหวข้อเข่า อาการเหล่านี้ ได้แก่
    • ข้อเข่าที่เสื่อมช่องข้อแคบลงจากเนื้อกระดูกอ่อนที่หายไป ซึ่งมักจะเกิดกับช่องข้อด้านในก่อน การที่ช่องข้อแคบลงเฉพาะด้านใน ทำให้เกิดการเอียงของข้อเข่า เกิดเป็นเข่าโก่งงอเกิดขึ้น
    • เกิดกระดูกงอกขอบผิวข้อทำให้ข้อติดขัด เวลาเคลื่อนไหวมีเสียงดังคล้ายมีกรวดทรายหยาบอยู่ในข้อ หรือ ทำให้งอ-เหยียดเข่าได้ไม่ปกติ ติดขัดได้ 
    • อาการที่เกิดกับกล้ามเนื้อขยับข้อเข่า ทำให้รู้สึกขาหนัก เมื่อยล้า หรือ ขาไม่มีแรง เกิดจากการที่ข้อเข่าสีกหรอ ขุรขระ ไม่เรียบ ทำให้กล้ามเนื้อที่ใช้ขยับหมุนข้อต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อเคลื่อนไหวข้อเข่า และทำกิจกรรมต่างๆ
  2. อาการที่เกิดจากการอักเสบข้อเข่า การอักเสบ เป็นกระบวนการที่ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งที่ทําให้เนื้อเยื่อของร่างกายได้รับบาดเจ็บ (ในข้อเข่าเสื่อมคือกระดูกอ่อนที่สึกหรอ เสียหายไป) เกิดการเข้ามาในบริเวณอักเสบของเซลล์เม็ดเลือดขาว และการเพิ่มขึ้นของสารอักเสบในบริเวณอักเสบ อาการของการอักเสบข้อเข่า ที่เกิดจากโรคข้อเข่าเสื่อม ได้แก่ 
    • อาการปวดเข่า เกิดจากสารอักเสบที่เพิ่มขึ้นในบริเวณอักเสบ มักเป็นอาการสำคัญเริ่มแรก จะมีอาการปวด เจ็บ ขัด เสียว แสบ  รู้สึกได้บริเวณรอบๆข้อ โดยเฉพาะด้านในของข้อเข่า อาจมีอาการปวดด้านหน้า หรือ ด้านหลังของข้อเข่าร่วมด้วยตามระดับความรุนแรงของโรค เมื่อเป็นมากจะปวดเข่าตลอดเวลาขยับเคลื่อนไหว ยืน เดิน ซึ่งจะทำให้คนไข้ใช้งานข้อเข่าได้ ไม่คล่องเหมือนเดิม
    • อาการข้อเข่า บวม แดง ร้อน เกิดจากการเพิ่มขึ้นของเลือด และของเหลวในบริเวณอักเสบ

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม รักษาด้วยวิธีใดได้บ้าง?

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยไม่ใช้ยา

โดยลดการกดที่ข้อเข่า การใช้ประคบร้อน ในขณะเดียวกันผู้มีอาการเจ็บเข่า ปวดเข่าจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่ง ยืน เดิน ควรลดน้ำหนักตัว ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม หรืออาจจะใช้ไม้เท้าช่วยเดินเพื่อลดแรงกดในช่วงที่พยายามลดอาการเจ็บเข่า ปวดเข่า

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการใช้ยา

  • ยาแก้ปวดพาราเซตามอลเป็นยาที่ควรเลือกใช้เป็นอันดับแรกในกรณีที่ปวดไม่มากให้ประสิทธิผลดีและปลอดภัย
  • ยาทาเฉพาะที่ประเภทยาแก้ปวดและต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ใช้ทานวดซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดความร้อนเฉพาะที่
  • ยาต้านการอักเสบแบบไม่มีสเตียรอยด์ (NSAIDs)ในรูปของยากินและยาฉีดจะช่วยลดอาการปวดและอักเสบได้ดีควรใช้ยาอย่างระมัดระวังโดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ได้รับยาสเตียรอยด์ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดหรือผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารหรือมีปัญหาหอบหืดตับไตหัวใจและสังเกตผลข้างเคียงของยาที่พบได้เช่นไม่สบายท้องท้องอืดปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนถ่ายอุจจาระสีดำผื่นคันพิษต่อตับไตยากลุ่มนี้อาจทำให้บวมและความดันโลหิตสูงขึ้นไม่ควรใช้ยาติดต่อเป็นเวลานาน
  • ยาคลายกล้ามเนื้อการอักเสบทำให้กล้ามเนื้อโดยรอบเกร็งตึงได้การใช้ยาคลายกล้ามเนื้อจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้
  • การฉีดน้ำข้อเข่าเทียม

การรักษาทางกายภาพบำบัด

ซึ่งจะให้ผลดีมากหากรักษาร่วมกับการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียมซึ่งจะช่วยลดอาการปวดโดย นักกายภาพบำบัดจะใช้เครื่องมือ Focus shockwave ยิงกระแทกบริเวณกล้ามเนื้อรอบเข่าเพื่อให้เกิดกระบวนการซ่อมแซมและลดปวด และยังช่วยลดอาการข้อเข่าอักเสบได้โดยไม่ต้องทานยา นักกายภาพบำบัดจะใช้เครื่อง high power laser ในการเติมพลังงานให้กับเซลล์ที่มีการระบม หรืออักเสบอยู่ ให้หายอักเสบได้กระตุ้นให้หายได้ไวขึ้น

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการผ่าตัดข้อเข่า เปลี่ยนข้อเข่า ข้อเข่าเทียม

ปัจจุบันการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการผ่าตัดเป็นที่นิยมมาก เพราะเห็นผลการรักษาไว และทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติโดยไม่เจ็บเข่าทรมานอีก ซึ่งหลังจากผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมแล้ว ผู้ป่วยจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลายอย่างเพื่อให้ข้อเข่าเทียมใช้งานได้ดีและมีอายุการใช้งานนานมากขึ้น เช่น เลี่ยงท่านั่ง เดินที่ใช้ข้อเข่านานๆ ลดน้ำหนักตัว เลี่ยงการออกกำลังกายที่มีแรงกดทับหรือการกระโดดแรงๆ ฯลฯ

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ที่ The Commons Clinic ดีอย่างไร?

หากคุณกำลังเผชิญกับการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม อย่าปล่อยทิ้งไว้จนอาการหนัก สามารถนัดหมายเข้ามาทำกายภาพบำบัดที่ thecommonsclinic.com ได้เลย 

เรามีทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดปริญญาให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด พร้อมเครื่องมือกายภาพบำบัดที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น เครื่อง Shock Wave หรือ เครื่อง PMS มีการตรวจประเมินร่างกายและวางแผนรักษาเฉพาะบุคคลก่อนทุกครั้ง มั่นใจได้เลยว่า จะช่วยให้อาการปวดของคุณดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำอย่างแน่นอน

คำถามที่พบบ่อย

การทำกายภาพบำบัดจะช่วยให้อาการปวดเรื้อรังดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ควรเข้ารับการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์ หรือนักกายภาพบำบัดแนะนำ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะอยู่ที่ 5 – 6 ครั้ง สำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงมาก

ที่ The Commons Clinic เราใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดที่ทันสมัยในการรักษาผู้เข้าใช้บริการ ซึ่งจะช่วยให้อาการปวดดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยที่ไม่ต้องใช้ยา หรือผ่าตัดเลย

The Commons Clinic เป็นคลินิกกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ดูแลโดยแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งสามารถออกใบรับรองแพทย์ให้กับผู้ใช้บริการนำไปเบิกประกันสุขภาพ หรือประกันกลุ่มแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ได้

The Commons Clinic มีที่จอดรถรองรับหลักร้อยคัน สามารถขับรถเข้ามาใช้บริการอย่างสบายใจได้เลย

สามารถชำระค่าใช้บริการเป็นเงินสด หรือโอนผ่านบัญชีธนาคารได้เลย

รีวิวจากลูกค้าจริง

Excellent
Based on 30 reviews
Attapol Tumhonyam
Attapol Tumhonyam
8 January 2024
คลินิคดูแลดีมากเลย อยากให้ทุกคนที่มีปัญหาปวดตัวจากการทำงานมาปรึกษาที่คลินิคนี้ได้คับ
PEAR ANANTA
PEAR ANANTA
29 December 2023
แนะนำเลยใครสายรักสุขภาพที่กำลังหาคลีนิคกายภาพดีๆ เราได้มีโอกาสมาที่คลีนิค The Commons Clinic ตกแต่งคลีนิคสไตล์มินิมอลสบายตา สะอาด รู้สึกผ่อนคลายสุดๆ พี่นักกายภาพแนะนำดี ที่สำคัญคุณหมอตรวจละเอียดมากๆและใส่ใจสุดๆ เราเพิ่งเคยทำครั้งแรกตอนแรกกลัวเจ็บ แต่พอลองทำจริงไม่เจ็บเลยชิลมาก ฟินสุดๆ ครั้งหน้ามาซ้ำอีกแน่นอน 👍🏻
ชุลีพันธ์ กลั่นชื่น
ชุลีพันธ์ กลั่นชื่น
28 December 2023
คุณหมอและนักกายภาพที่นี่ ดูแลดีที่สุดเท่าที่เคยทำกายภาพมาเลยค่ะ ให้คำอธิบายอย่างละเอียด ทั้งสาเหตุการปวด กลไกการปวด และอธิบายการรักษาที่ให้ชัดเจน หลังการรักษาก็มีการติดตามผลต่อเนื่อง จัดให้เป็นที่ซ่อมร่างชั้นดี สำหรับสาย Adventure ที่บาดเจ็บบ่อยๆแบบเราเลยค่ะ
Puilizy Namthip
Puilizy Namthip
14 December 2023
คุณหมอให้คำปรึกษาและแนะนำดีมากๆค่ะ เครื่องมือและอุปกรณ์ก็ทันสมัย ไปใช้บริการอีกแน่นอนค่ะ
Supawit Popromsri
Supawit Popromsri
13 December 2023
เพิ่งไปมาครั้งแรก ชอบเลย บรรยากาศดีมากกก คุณหมอน่ารัก ปรึกษาดี เบิกประกันฉลุย รักษา office syndrome ได้อย่างตรงจุด
Pong Pong
Pong Pong
10 December 2023
คุณหมอใส่ใจการรักษา อธิบายเข้าใจง่าย ร้านสะอาด และเครื่องมือทันสมัยดีมากครับ👍
NejuTravel / บันทึกเที่ยว
NejuTravel / บันทึกเที่ยว
6 December 2023
มีอาการปวดหลังล่างเนื่องมาจากนั่งนาน ได้มารักษาที่นี่แล้วดีขึ้น ไม่รู้สึกทรมานอีกต่อไป พนักงานมีความใส่ใจพอหลังจากรักษาเสร็จกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นจะมีพนักงานโทรมาสอบถามอาการตลอดเวลา ว่ายังเจ็บตรงไหนบ้าง พร้อมทั้งแนะนำวิธีดูแลไม่ให้เป็นซ้ำอีก แนะนำครับ
ปิยนาถ งามเจริญ
ปิยนาถ งามเจริญ
5 December 2023
ไปมาหลายที่ แต่ที่นี้ครั้งแรกก็ตรงจุด คุณหมอและทีมงานเก่งมากรักษาแบบละเอียด ใส่ใจ สถานที่ก็เป็นส่วนตัว จอดรถสะดวก สะอาด รักษาแล้วหายเลยอยากแนะนำต่อ 👍🏻
Wananya Phochai
Wananya Phochai
5 December 2023
ที่จอดรถสะดวก คลินิกสะอาด ตกแต่งสวย เครื่องมือทันสมัย คุณหมอใส่ใจมากค่ะ
Sukhumarn Charoenketkit
Sukhumarn Charoenketkit
5 December 2023
ใครมีปัญหา office syndrome มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวังค่ะ

บริการของคลินิกกายภาพบำบัด The Commons Clinic

เคลียร์จบทุกปัญหาอาการปวด พร้อมให้การรักษาอย่างตรงจุด โดยทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดมืออาชีพ

ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด มักพบในพนักงานออฟฟิศที่ต้องทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ ตัวอย่างกลุ่มอาการที่เข้าข่าย เช่น ปวดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดสะบัก ปวดหลัง ปวดวิงเวียนศีรษะเรื้อรัง (หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นอาการปวดไมเกรน) ปวดหรือเหน็บชาบริเวณขา ตาล้าพร่ามัว มือชา นิ้วล็อค และปวดข้อมือ

กลุ่มอาการกล้ามเนื้ออักเสบและบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา (Sport Injury)

อาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ไม่ว่าจะเป็น การบาดเจ็บจากการปะทะ หรือกระแทกจนทำให้กล้ามเนื้อ หรือเส้นเอ็นได้รับบาดเจ็บ เคลื่อน หรือฉีกขาด รวมไปถึงการบาดเจ็บที่เกิดจากตัวเอง เช่น การขยับผิดจังหวะ หรือมีการบิดตัว จนทำให้กล้าม เส้นเอ็น และข้อต่อ ได้รับบาดเจ็บ หรือฉีกขาด โดยนักกายภาพบำบัดจะใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดที่ทันสมัย ช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูให้อาการบาดเจ็บดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

ข้อเข่าเสื่อม (OA Knee)

กลุ่มอาการข้อเข่าเสื่อมที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวกระดูกอ่อนตามวัย โดยแพทย์จะฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าในกลุ่มไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic acid) เข้าไปที่ข้อเข่า เพื่อทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่น ลดการเสียดสีและแรงกระแทกขณะใช้งาน ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและขัดที่ข้อเข่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ