รวมเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับการทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ช่วยรักษาอาการปวดเรื้อรังได้จริงหรือ?

อาการปวดเรื้อรัง ปวดร้าวลงมาที่ขา มีอาการชาที่ปลายประสาท หรือแขนขาอ่อนแรง อาจเป็นสัญญาณของโรคยอดฮิตอย่างออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) รวมไปถึงโรคที่เป็นอันตรายอย่าง หมอนกระดูกทับเส้นประสาท หรือ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต 

เมื่อเกิดอาการเหล่านี้แล้ว ควรรีบมาพบนักกายภาพบำบัดตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อรักษาอาการให้ดีขึ้น และป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นโรค และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตได้ ซึ่งในบทความนี้ The Commons Clinic จะพาคุณไปทำความรู้จักกับการทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS เครื่องมือกายภาพบำบัดที่สามารถรักษาอาการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS คืออะไร?
เครื่อง PMS หรือ Peripheral Magnetic Stimulation คือ เครื่องมือกายภาพบำบัดที่ใช้รักษาอาการเจ็บปวดต่าง ๆ โดยการกระตุ้นระบบประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูง ส่งผ่านเสื้อผ้าลงไปจนถึงเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ หรือกระดูกที่บาดเจ็บ ซึ่งอยู่ลึกประมาณ 10 เซนติเมตร และเป็นบริเวณที่การนวดตัวไม่สามารถช่วยได้ เพื่อกระตุ้นให้มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น และบรรเทาอาการปวดลงอย่างรวดเร็ว
รูปเครื่อง PMS ชัด ๆ  (ขนาด 1,200*800)
หลักการทำงานของเครื่อง Peripheral Magnetic Stimulation (PMS)
หลักการทำงานของ Peripheral Magnetic Stimulation (PMS)
การกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS จะทำงาน 2 ส่วนพร้อม ๆ กัน ได้แก่

  • ทำให้กล้ามเนื้อที่แข็งเกร็งคลายตัวลง : โดยการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูงไปยังกล้ามเนื้อชั้นลึกที่เป็นสาเหตุของอาการปวด และกระตุ้นให้เกิดการหดและคลายตัวสลับกันตามความถี่ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยลดความเกร็งแข็งของกล้ามเนื้อ ทำให้มีการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น และช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกผ่อนคลาย
  • ฟื้นฟูความบกพร่องในการทำงานของระบบประสาท : โดยการกระตุ้นการรับรู้ของระบบประสาท (Neuroplasticity) และฟื้นฟูให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น หรือกลับมาเป็นปกติ ซึ่งจะช่วยลดอาการเจ็บปวดเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ช่วยรักษาอาการอะไรได้บ้าง?
การกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS สามารถช่วยรักษา และฟื้นฟูได้หลายอาการ ดังนี้

  • ช่วยรักษาอาการปวดเฉียบพลัน อาการปวดเรื้อรัง และโรคออฟฟิศซินโดรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยรักษาอาการปวดที่มาจากระบบประสาท และลดอาการชาที่มือ เท้า หรือขาได้
  • ช่วยกระตุ้นให้เส้นประสาทที่เสียหายมีการซ่อมแซมและฟื้นฟูได้ดีขึ้น เช่น ผู้ที่มีแขนขาอ่อนแรง มือตก เท้าตก หรือมีการกดทับรากประสาทที่คอและหลัง ซึ่งเกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือเสื่อม หรือผู้ที่เพิ่งรักษาอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นต้น
  • ช่วยกระตุ้นให้มีการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อได้ดีขึ้น
  • ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อในผู้ที่เป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
  • ช่วยฟื้นฟูอาการกล้ามเนื้อบาดเจ็บ หรือเส้นเอ็นอักเสบจากการเล่นกีฬา หรือออกกำลังกาย
เมื่อไหร่ที่สามารถทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ได้
หากคุณมีอาการปวดเรื้อรังบ่อย ๆ สามารถเข้ามาพบนักกายภาพบำบัด เพื่อเข้ารับการรักษาได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอให้อาการปวดรุนแรงจนส่งผลต่อสุขภาพ หรือการใช้ชีวิตประจำ โดยจะจำเป็นต้องใช้เครื่อง PMS หรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ หรือนักกายภาพบำบัดที่ทำการรักษา

อย่างไรก็ตาม การทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS จะมีข้อจำกัดในผู้ที่ใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือโลหะต่าง ๆ ไว้ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือคลิปหนีบเส้นเลือดโป่งพองในสมอง และไม่สามารถทำในผู้ที่มีประวัติลมชักได้ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้

ข้อดีของการทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS
สาเหตุที่ทำให้การทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ได้รับความนิยมมาก ก็เพราะว่าการรักษาด้วยเครื่อง PMS สามารถช่วยให้อาการปวดดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และสามารถใช้รักษาได้ทั้งระยะเฉียบพลัน กึ่งเฉียบพลัน และเรื้อรัง โดยที่ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บต่ออวัยวะโดยรอบด้วย
รูปภาพรักษาคนไข้ด้วยเครื่อง PMS (ไม่ซ้ำกับภาพปก) (ขนาด 1,200*800)
ขั้นตอนการทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS
ขั้นตอนการทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS
ขั้นตอนการทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS มีดังนี้

  • นักกายภาพบำบัดจะทำการซักประวัติและตรวจร่างกาย เพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
  • ใช้แผ่นประคบอุ่น เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น
  • หลังจากนั้น นักกายภาพบำบัดจะใช้เครื่อง PMS รักษาอาการปวดอย่างตรงจุด โดยทำการยิงคลื่นกระตุ้นที่กล้ามเนื้อบริเวณที่ปวดและข้างเคียงอย่างเหมาะสม 
  • เมื่อยิงด้วยเครื่อง PMS เสร็จแล้ว ก็จะทำการยืดกล้ามเนื้อและประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการระบม และช่วยให้ฟื้นตัวได้ดีขึ้น
  • นักกายภาพบำบัดให้คำแนะนำการออกกำลังกาย ท่ายืดกล้ามเนื้อที่ควรทำในทุก ๆ วัน และการปรับท่านั่งทำงานให้ถูกต้อง เพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษานำกลับไปปรับใช้ในการดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์หลังทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS เป็นอย่างไร?
หลังจากที่เข้ารับการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS แล้ว จะสามารถบรรเทาอาการปวดได้ทันที ซึ่งในบางรายที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อไม่รุนแรงมาก หรือเพิ่งเริ่มมีอาการ ก็อาจหายปวดได้ตั้งแต่การทำครั้งแรกเลย

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้เข้ารับการรักษาควรทำอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง จนกว่าอาการปวดจะหายกลับมาเป็นปกติ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะอยู่ที่ 2 – 5 ครั้ง

การเตรียมตัวก่อนทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS
การทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ ไม่ต้องงดน้ำ ไม่ต้องงดอาหาร เพียงแค่นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทำใจให้สบาย ๆ ไม่ต้องเครียด แล้วเดินทางมาเข้าใช้บริการที่ The Commons Clinic ได้เลย
การดูแลตนเองหลังทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS
หลังจากที่ทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS แล้ว ควรยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดการระบม หรือถ้าใครที่มีอาการบวมก็สามารถประคบเย็นด้วย Cold Pack หรือ Ice Massage เพื่อบรรเทาอาการได้ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการนวดในช่วง 2 – 3 วันแรก เพราะจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบมากขึ้นได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
อาจมีอาการกล้ามเนื้อระบม หรือเป็นตะคริวหลังจากที่ทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ไปแล้ว 2 – 3 วัน หลังจากนั้นอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น และหายกลับมาเป็นปกติได้เอง
บรรยากาศคลินิก (ขนาด 1,200*800)
ทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS มีที่ไหนบ้าง​ ราคาเท่าไร
การทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS มีที่ไหนบ้าง​ ราคาเท่าไร?
สำหรับใครที่สนใจทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS เพื่อรักษาอาการปวดเรื้อรังต่าง ๆ สามารถเข้ามาใช้บริการที่ The Commons Clinic ได้เลย 

ซึ่งที่คลินิกของเราจะใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดชั้นนำต่าง ๆ เช่น เครื่อง PMS, เครื่องช็อคเวฟ และเครื่อง RF ในการรักษาอาการปวด ดูแลโดยแพทย์และนักกายภาพบำบัดปริญญา มั่นใจได้เลยว่า อาการปวดจะดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และเมื่อรักษาอย่างต่อเนื่องก็จะหายปวดถาวรแน่นอน

โดยราคาค่าบริการทำกายภาพบำบัดที่ The Commons Clinic จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้

  • Office Syndrome : เป็นกลุ่มอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดท้ายทอย หลังค่อม และไหล่ติด จะมีราคาอยู่ที่ 1,500 บาทต่อครั้ง ใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง 
  • Sport Injury : เป็นกลุ่มอาการกล้ามเนื้ออักเสบและบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา จะมีราคาอยู่ที่ 1,500 บาทต่อครั้ง ใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง 
  • OA Knee : เป็นกลุ่มอาการข้อเข่าเสื่อม จะรักษาด้วยการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า หรือฉีด PRP จะมีราคาอยู่ที่ 6,900 บาท ต่อการฉีด 1 ครั้ง
สรุป สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS
การทำกายภาพบำบัดด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS เป็นการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ หรือการบาดเจ็บที่เส้นประสาท โดยการส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้อให้เกิดการหดตัวและคลายตัว พร้อม ๆ กับกระตุ้นให้ระบบประสาทมีการฟื้นฟูที่ดีขึ้น และกลับมาทำงานได้ตามปกติ นับเป็นหนึ่งในเครื่องมือทำกายภาพบำบัดที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะสามารถช่วยลดอาการปวดเรื้อรังได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ

ถ้าหากคุณมีอาการปวดอยู่ อย่าปล่อยทิ้งไว้จนอาการหนัก สามารถนัดหมายเข้ามาทำกายภาพบำบัดที่ The Commons Clinic ได้เลย เรามีทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดปริญญาพร้อมให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด มั่นใจได้เลยว่าอาการปวดเรื้อรังของคุณจะต้องหายดีอย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้าใช้บริการ The Commons Clinic ได้ที่ :

  • ที่ตั้ง : 388 ถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 (https://goo.gl/maps/sbT1J8wUKgy4mQPF8)
  • เวลาทำการ​ : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. – 19.00 น.
  • เบอร์โทรศัพท์ : 094-694-9563
  • Line OA : @thecommonsclinic

Facebook : The Commons Clinic – คลินิกเฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู และ กายภาพบำบัด

19/06/66 เวลา 00:02 น.