อาการปวดคอเป็นส่วนหนึ่งของอาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งมาจากการก้มหน้าก้มตาทำงานทั้งวันโดยไม่พัก ทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ และมีอาการปวด บาดเจ็บได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อาการปวดคอ สามารถเกี่ยวข้องกับปัญหาของกระดูกสันหลังส่วนคอได้ เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดคอ และอาการอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ปวดแขน รู้สึกเสียวซ่า หรืออ่อนแรง

ปวดคอ

​​อาการปวดคอ (cervicalgia) คืออะไร?

อาการปวดคอ หรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า cervicalgia คืออาการปวดใน หรือรอบกระดูกสันหลังใต้ศีรษะ คอเรียกอีกอย่างว่ากระดูกสันหลังส่วนคอเป็นอาการทั่วไปที่มีลักษณะไม่สบายหรือปวดบริเวณคอ อาจมีตั้งแต่ไม่รุนแรง และชั่วคราวไปจนถึงรุนแรง และเรื้อรัง 

อาการปวดคอตามแนวแกน (Axial neck pain) หรือปวดคอเรดิคูลาร์ (Radicular neck pain )  (ความปวดที่พุ่งเข้าไปในบริเวณอื่นๆ เช่น ไหล่หรือแขน) อาจเป็นแบบเฉียบพลัน ที่กินเวลาตั้งแต่ถึง 6 สัปดาห์ หรือเรื้อรังที่กินเวลานานกว่า 3 เดือน อาการปวดคอสามารถรบกวนกิจกรรมประจําวัน

ทำความรู้จักกับกระดูกสันหลังส่วนคอ

กระดูกสันหลังส่วนคอประกอบด้วยกระดูกเจ็ดซี่ที่เรียกว่า C1 ถึง C7 ที่เรียกว่ากระดูกสันหลัง อยู่บนสุดของกระดูกสันในร่างกายมนุษย์ โดยเริ่มจากฐานของกะโหลกศีรษะ และขยายลงไปถึงด้านบนของกระดูกสันหลังส่วนอก กระดูกสันหลังส่วนคอมีบทบาทสำคัญในการรองรับศีรษะ ช่วยให้เคลื่อนไหวได้หลากหลาย และปกป้องไขสันหลัง

กระดูกสันหลังส่วนคอล้อมรอบด้วยกล้ามเนื้อ เส้นประสาท เส้นเอ็น และเอ็น ดิสก์ “Shock-absorbing” เรียกว่าดิสก์ระหว่างกระดูกสันหลัง อยู่ในตําแหน่งระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ ไขสันหลังจะไหลผ่านศูนย์กลางของกระดูกสันหลังทั้งหมดของคุณ โดยไขสันหลังจะ ส่ง และรับข้อความจากสมอง ซึ่งควบคุมการทํางานของร่างกายทุกด้าน

ปวดคอ

หมอนรองกระดูกคอเคลื่อนที่คืออะไร?

โดยปกติแล้วกระดูกสันหลังของมนุษย์จะประกอบด้วยข้อกระดูกขนาดเล็กเป็นชิ้นๆเรียงต่อกัน โดยระหว่างชิ้นนั้นจะมีสารที่คล้ายๆเจลอยู่ภายใน และถูกหุ้มด้วยวงแวนที่หนาเหนียว และแข็งแรง ทั้งสองส่วนนั้นจะประกอบกันเป็นหมอนรองกระดูก การที่หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท (Herniated disk) นั้นเป็นภาวะที่กระดูกสันหลังเมื่อแกนในที่อ่อนนุ่ม (Nucleus pulposus) ของหมอนรองกระดูกสันหลังนูน หรือแตกออกผ่านชั้นนอกที่แข็ง (Annulus fibrosus) โดยหลักแล้วเกิดจากการกดทับหรือการระคายเคืองตึงที่เส้นประสาทไขสันหลังบริเวณใกล้เคียง หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ตามแนวกระดูกสันหลัง แต่มักพบบริเวณหลังส่วนล่าง (บริเวณเอว) และคอ

ใครมีความเสี่ยงต่อหมอนรองกระดูกคอเคลื่อน?

  • วัยกลางคน และวัยชรา
  • การยกหนัก
  • การใช้กล้ามเนื้อคอมากเกินไป เช่น ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ก้มหน้ามองจอคอมพิวเตอร์
  • นั่งในตําแหน่งเดิมเป็นประจําเป็นเวลานาน
  • สูบบุหรี่
  • พันธุศาสตร์

ปวดคอ

อาการปวดคอรู้สึกอย่างไร?

  •  ปวดอย่างต่อเนื่อง
  • รู้สึกแสบร้อนที่คอ
  • บางครั้งอาจมีอาการรามไปถึงไหล่ หรือแขน
  • ปวดคอรามขึ้นหัวทำให้ปวดหัวจนนอนไม่หลับ
  • ไม่สามารถหันคอหรือเอียงศีรษะได้
  • รู้สึกชาหรือรู้สึกเสียวซ่า

สาเหตุทั่วไปที่ทำให้เกิดอาการปวดคอ

1.อาการปวดคอจนร้าวขึ้นหัวจนทำให้นอนไม่หลับ

อาการปวดคอร้าวไปถึงหัว ทำให้มีอาการปวดหัวจนนอนไม่หลับ และมีหลายสาเหตุที่เป็นไปได้เช่น

  • Cervicogenic headache (CGH) เป็นอาการปวดศีรษะประเภทหนึ่งที่มาจากปัญหาในกระดูกสันหลังส่วนคอมักลามไปยังบริเวณอื่นๆ รวมถึงศีรษะ และใบหน้า  มักเกิดอาการปวดที่ด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะหรือใบหน้า มักเป็นที่ด้านหลังศีรษะ รอบขมับ หรือหลังตา ซึ่งมีอาการปวดเมื่อย หรือรู้สึกปวดตุ๊บๆ ได้
  • ไมเกรนอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรงซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับอาการปวดคอมาก่อน และรามไปถึงการปวดไมแกรน
  • การใช้งานกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ หนักเกินไป เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนนอนไม่หลับ และเข้าใจผิดว่าเป็นสาเหตุมาจากโรคไมเกรน เนื่องจากจะมีลักษณะอาการที่คล้ายกัน คือ ปวดร้าวบริเวณกะโหลกศีรษะ หรือปวดศีรษะข้างเดียว ปวดทั้งศีรษะร่วมกับมีอาการปวดบริเวณเบ้าตา จนทำให้ไม่สามารถนอนได้
  • การใช้งานกล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ หนักเกินไป เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนนอนไม่หลับ และเข้าใจผิดว่าเป็นสาเหตุมาจากโรคไมเกรน เนื่องจากจะมีลักษณะอาการที่คล้ายกัน คือ ปวดร้าวบริเวณกะโหลกศีรษะ หรือปวดศีรษะข้างเดียว ปวดทั้งศีรษะร่วมกับมีอาการปวดบริเวณเบ้าตา จนทำให้ไม่สามารถนอนได้

2.อาการตึงของกล้ามเนื้อ (Muscle Strain)

การใช้กล้ามเนื้อคอมากเกินไป หรือไม่เหมาะสม เช่น ท่าทางที่ไม่ดี นอนตกหมอน การนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือการนอนในท่าที่ไม่ดี อาจทำให้กล้ามเนื้อตึง และปวดคอได้

3.ปัญหาทางกลไก (Mechanical Issues)

สภาวะต่างๆ เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน กระดูกสันหลังส่วนคอสึกหรอ หรือโรคข้อต่อเสื่อม ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดคอได้

อาการปวดคอ (cervicalgia) ใช้เวลานานแค่ไหนในการรักษา?

เวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทําให้ปวดคอ อาการปวดคอที่เกิดจากปัญหาทั่วไป เช่น ความเครียดตึงของกล้ามเนื้อ มักจะดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ถ้ามีอาการรุนแรวอาจใช้เวลา 2-3 เดือนก่อนที่ความเจ็บปวดจะหายไปทั้งหมด

ถ้ามีอาการปวดคอจะทำได้เองที่บ้านอย่างไร

  • การบําบัดด้วยความร้อน: อาบน้ําอุ่นหรือวางผ้าขนหนูร้อน หรือแผ่นความร้อน บนบริเวณที่ปวดเป็นเวลา 15 นาทีทุก 2-3 ชั่วโมง เพราะความร้อนทําให้กล้ามเนื้อของคุณคลายตัว และช่วยเรื่องไหลเวียนของเลือด
  • การบําบัดแบบเย็น: วางถุงเย็นหรือห่อน้ำแข็งด้วยผ้าขนหนูบาง ๆ เพื่อปกป้องผิวเป็นเวลา 15 นาทีทุก2-3 ชั่วโมง ความเย็นทําให้หลอดเลือดแคบลง ลดการอักเสบ และบวม สามารถใช้ความเย็นแทนความร้อนทันทีหลังจากได้รับบาดเจ็บ
  • การออกกําลังกาย: ปฏิบัติตามคําแนะนําของแพทย์เกี่ยวกับการออกกําลังกายที่คอ แต่อย่าพยายามออกกําลังกายโดยไม่มีคำแนะนำ เพราะอาจได้รับบาดเจ็บที่คออย่างรุนแรง
  • เลิกสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ทําลายโครงสร้างกระดูก เร่งโรคดิสก์เสื่อม (degenerative disk )

การรักษาอาการปวดคอ

  • กายภาพบําบัด โดยนักกายภาพบำบัดจะกำหนดท่าที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้สามารถรองรับกระดูกสันหลังได้ นอกจากนี้การทำกายภาพบำบัดยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย
  • การฉีดยา เช่น การฉีดสเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการปวด และลดการอักเสบ
  • การผ่าตัดการบาดเจ็บที่มีอาการหนัก อาจจะต้องใช้การผ่าตัดเข้าช่วย เพื่อช่วยลดอาการปวดคอให้ดียิ่งขึ้น
  • รักษาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS หรือ Peripheral Magnetic Stimulation เป็นการกระตุ้นระบบประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูง เพื่อกระตุ้นให้มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น และบรรเทาอาการปวดลงอย่างรวดเร็ว
  • เทคนิคบำบัดด้วยมือ (Manual Technique) การรักษาแบบหัตถการโดยการใช้มือ ดึง ดัด จัดกระดูก และข้อต่อต่าง ๆ เพื่อปรับโครงสร้างร่างกายให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
  • การทำช็อคเวฟ (Shock Wave) เป็นการส่งคลื่นกระแทกที่เกิดจากแรงอัดอากาศปริมาณสูงไปยังบริเวณที่มีอาการปวดเรื้อรัง โดยคลื่นกระแทกจะกระตุ้นให้กล้ามเนื้อ เกิดกระบวนการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นใหม่อีกครั้ง พร้อม ๆ กับลดปริมาณของสารสื่อประสาทที่ส่งสัญญาณเจ็บปวด

หากคุณไม่แน่ใจว่ากำลังเผชิญอยู่กับอาการออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) อยู่หรือไม่  อย่าปล่อยทิ้งไว้จนอาการหนัก สามารถนัดหมาย หรือเข้ามาปรึกษาแพทย์ ได้ที่ thecommonsclinic.com ได้เลย

The Commons Clinic เรามีทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดปริญญาให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด พร้อมเครื่องมือกายภาพบำบัดที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น เครื่อง Shock Wave หรือ เครื่อง PMS มีการตรวจประเมินร่างกายและวางแผนรักษาเฉพาะบุคคลก่อนทุกครั้ง มั่นใจได้เลยว่า จะช่วยให้อาการปวดของคุณดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำอย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้าใช้บริการ The Commons Clinic ได้ที่ :

ขอบคุณข้อมูลจาก : spine health, Cleve land clinic

18/01/67 เวลา 05:00 น.