ปวดข้อมือเกิดจากอะไร สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

อาการปวดข้อมือเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ต้องนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์ อาจรู้สึกปวดข้อมือจากการใช้เมาส์ หรือการใช้สมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน ซึ่งการใช้งานมือและข้อมือซ้ำๆ ในท่าทางเดิมๆ นี้ นำไปสู่การบาดเจ็บสะสมและก่อให้เกิดความเจ็บปวดได้ แม้ว่าอาการปวดข้อมือบางครั้งเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและการทำงานในระยะยาว คลินิกกายภาพบำบัด เดอะคอมมอนส์คลินิก (The Commons Clinic) จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุและอาการที่ไม่ควรมองข้าม

ทำความรู้จักอาการปวดข้อมือที่พบบ่อย

  • อาการปวดแบบเฉียบพลัน: เกิดขึ้นทันทีหลังได้รับบาดเจ็บหรือใช้งานหนักเกินไป มักมีอาการปวดรุนแรง บวม และอาจมีรอยช้ำ การเคลื่อนไหวข้อมือจะทำได้จำกัดและรู้สึกเจ็บมากเมื่อพยายามใช้งาน
  • อาการปวดเรื้อรังที่สะสมมานาน: เริ่มจากอาการปวดเล็กน้อยแต่เป็นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานมือมาก อาจรู้สึกปวดตึง เมื่อยล้า และรู้สึกไม่สบายข้อมือแม้ขณะพัก อาการมักแย่ลงเมื่อใช้งานต่อเนื่อง
  • ลักษณะการปวดที่บ่งบอกถึงโรค: อาการปวดแต่ละแบบอาจบ่งชี้ถึงโรคที่แตกต่างกัน เช่น ปวดร้าวไปที่นิ้วมือ ชาตามปลายนิ้ว อาจเกี่ยวข้องกับเส้นประสาทถูกกดทับ หรือปวดตึงในตอนเช้าอาจเป็นสัญญาณของโรคข้ออักเสบได้

สัญญาณอันตราย! ปวดข้อมือแบบไหนที่ต้องพบแพทย์

เมื่อมีอาการปวดข้อมือรุนแรงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่สามารถทำกิจวัตรพื้นฐานได้ตามปกติ หรือมีอาการบวม แดง ร้อนบริเวณข้อมือ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการอักเสบรุนแรง นอกจากนี้ หากมีอาการชาร่วมด้วยโดยเฉพาะที่นิ้วมือ อาจบ่งชี้ถึงปัญหาเส้นประสาทที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน และที่สำคัญ หากมีอาการปวดต่อเนื่องนานเกิน 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

ปวดข้อมือเกิดจากอะไร สาเหตุหลักที่ทำให้มีอาการปวดข้อมือ

ปวดข้อมือเกิดจากอะไรนั้นมีได้หลายสาเหตุ ตั้งแต่การใช้งานผิดท่าทาง การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ไปจนถึงโรคทางการแพทย์ต่างๆ การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริง จะช่วยให้คุณสามารถป้องกันและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมได้ โดยสาเหตุหลักๆ ที่พบบ่อยมีดังนี้

ปวดข้อมือเกิดจากอะไร สาเหตุหลักที่ทำให้มีอาการปวดข้อมือ

1. อาการปวดข้อมือจากการใช้งานผิดท่า

การใช้งานข้อมือในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน มักเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดข้อมือ เช่น ปวดข้อมือจากการใช้เมาส์ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม หรือการพิมพ์งานในท่าที่ข้อมืองอหรือบิดเป็นเวลานาน อาจรู้สึกปวดข้อมือเวลางอ รวมถึงการใช้สมาร์ตโฟนในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ล้วนส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บสะสมและนำไปสู่อาการปวดข้อมือได้

2. การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับข้อมือ เช่น การหกล้มแล้วใช้มือยันพื้น การกระแทกอย่างรุนแรง หรือการบิดข้อมือผิดท่า มักทำให้เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เอ็น หรือกระดูกบริเวณข้อมือได้ การบาดเจ็บเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดอาการปวดแบบเฉียบพลัน และหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังในระยะยาว

3. โรคทางการแพทย์ที่ทำให้ปวดข้อมือ

อาการปวดข้อมืออาจเกิดจากโรคทางการแพทย์หลายชนิด เช่น เอ็นข้อมืออักเสบ (De Quervain’s Tenosynovitis) โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคเก๊าต์ หรือภาวะเส้นประสาทถูกกดทับ (Carpal Tunnel Syndrome) ซึ่งแต่ละโรคมีลักษณะอาการและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยแพทย์โดยตรง

ใครบ้างที่เสี่ยงต่ออาการปวดข้อมือ?

ใครบ้างที่เสี่ยงต่ออาการปวดข้อมือ

  • กลุ่มคนทำงานออฟฟิศ

กลุ่มคนทำงานออฟฟิศมักต้องใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การพิมพ์งาน ใช้เมาส์ และการนั่งทำงานในท่าเดิมๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้เกิดการใช้งานข้อมือซ้ำๆ ในท่าทางที่อาจไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บสะสมและนำไปสู่อาการปวดข้อมือได้

  • ผู้ที่ทำงานใช้แรงจากมือซ้ำๆ

ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องใช้มือทำงานซ้ำๆ เช่น ช่างเสริมสวย ช่างตัดผม พนักงานสายการผลิต หรือช่างฝีมือ มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการปวดข้อมือ เนื่องจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ ในลักษณะเดิมเป็นเวลานานโดยไม่ได้พัก อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บสะสมได้

  • นักกีฬาและผู้ออกกำลังกาย

นักกีฬาและผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องใช้แรงที่ข้อมือมาก เช่น เทนนิส กอล์ฟ หรือการยกน้ำหนัก มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ข้อมือสูง ทั้งจากการใช้งานหนักเกินไปและการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา

  • ผู้สูงอายุ

ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดข้อมือมากขึ้น เนื่องจากการเสื่อมสภาพของข้อต่อและกระดูกตามวัย รวมถึงโรคข้อเสื่อมที่พบได้บ่อยในวัยสูงอายุ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดและการอักเสบของข้อมือได้

สรุป ทำอย่างไรเมื่อมีอาการปวดข้อมือ

เมื่อเกิดอาการปวดข้อมือ สิ่งสำคัญคือการประเมินความรุนแรงและหาสาเหตุที่แท้จริง หากมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม คลินิกกายภาพบำบัดของเรามีบริการการรักษาที่ครอบคลุม ทั้งการตรวจประเมินโดยนักกายภาพบำบัด การรักษาด้วยเครื่องช็อคเวฟที่ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด รวมถึงการให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนท่าทางการทำงาน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ ติดต่อเราวันนี้เพื่อรับการปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้าใช้บริการ The Commons Clinic ได้ที่ :

12/02/68 เวลา 20:49 น.