
โรคปลายประสาทอักเสบ อาการและสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
นอกจากอาการออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) แล้ว โรคปลายประสาทอักเสบกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานในท่าเดิมๆ และใช้งานข้อมือซ้ำๆ วันละ 7-8 ชั่วโมง อาจนำไปสู่อาการปวดชาตามมือและเท้า แม้อาการในระยะแรกอาจดูไม่รุนแรง แต่หากละเลยการรักษา อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้ คลินิกกายภาพบำบัด เดอะคอมมอนส์คลินิก (The Commons Clinic) จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกการเกิดโรคนี้ เพื่อให้คุณได้สังเกตอาการตั้งแต่เริ่มแรกและเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
โรคปลายประสาทอักเสบคืออะไร? ทำความเข้าใจกลไกการเกิดโรค
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ระบบประสาทส่วนปลายเปรียบเสมือนสายไฟที่เชื่อมต่อระหว่างสมองและไขสันหลังไปยังอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย ทำหน้าที่ส่งสัญญาณความรู้สึกและการเคลื่อนไหว เมื่อเกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทเหล่านี้ จะส่งผลให้การส่งสัญญาณผิดปกติ นำไปสู่อาการต่างๆ ของโรคปลายประสาทอักเสบ
กลไกการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบ
ภาวะปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy) เกิดจากการอักเสบหรือความเสียหายของเส้นประสาทส่วนปลาย ซึ่งอาจมีสาเหตุจากการบาดเจ็บ การติดเชื้อ ปัญหาการเผาผลาญ หรือการสัมผัสสารพิษต่างๆ โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน จะทำให้เส้นประสาทเสื่อมสภาพและเกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น
กลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังโรคปลายประสาทอักเสบ
- ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เนื่องจากความเสื่อมของระบบประสาทเริ่มเกิดขึ้นตามวัย และมักพบว่าการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเริ่มลดลง
- กลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติหรือบกพร่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน เพราะระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นเวลานานจะทำลายเส้นประสาทส่วนปลาย
- ผู้ที่ขาดวิตามิน B1 B6 และ B12 ซึ่งเป็นวิตามินสำคัญในการบำรุงและซ่อมแซมเส้นประสาท การขาดวิตามินเหล่านี้อาจนำไปสู่การเสื่อมของเส้นประสาท
- ผู้ที่ทำงานสัมผัสสารเคมีหรือได้รับสารพิษ เช่น ตะกั่ว โลหะหนัก สารเคมีเหล่านี้ทำลายเส้นประสาทโดยตรง ทำให้เกิดการอักเสบและเสื่อมสภาพ
ปลายประสาทอักเสบอาการเริ่มต้นเป็นอย่างไร
อาการแรกเริ่มของโรคปลายประสาทอักเสบมักเริ่มจากความผิดปกติที่ปลายนิ้วมือและเท้า โดยผู้ป่วยอาจสังเกตพบ
- มีอาการชาตามปลายนิ้วมือ ปลายเท้า เริ่มจากความรู้สึกชาเล็กน้อยที่ปลายนิ้ว และอาจลามไปถึงฝ่ามือฝ่าเท้า บางครั้งรู้สึกเหมือนมีผ้าห่อหุ้มนิ้วมืออยู่
- มีความรู้สึกเสียวแปลบหรือปวดแสบปวดร้อน อาการมักรุนแรงขึ้นในเวลากลางคืน บางครั้งรู้สึกเหมือนไฟช็อต หรือเข็มทิ่มแทง
- มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้การเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว จับของไม่มั่นคง หรือเดินไม่สมดุล
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปลายประสาทอักเสบอาการรุนแรง
1. โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นสาเหตุหลักที่พบบ่อยที่สุดของการเกิดภาวะปลายประสาทอักเสบ เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน จะส่งผลให้ผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเส้นประสาทแข็งตัวและตีบแคบลง ทำให้เลือดไปเลี้ยงเส้นประสาทได้น้อยลง นอกจากนี้ น้ำตาลที่สูงยังทำลายเยื่อหุ้มเส้นประสาทโดยตรง ส่งผลให้การส่งสัญญาณประสาทผิดปกติ เกิดอาการชา ปวดแสบปวดร้อน และอาการอื่นๆ ตามมา
2. การขาดวิตามินบี
วิตามินบีคอมเพล็กซ์ โดยเฉพาะ B1 B6 และ B12 มีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพของระบบประสาท การขาดวิตามินกลุ่มนี้มักพบในผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมสารอาหาร ผู้ที่รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เมื่อร่างกายขาดวิตามินบี จะส่งผลให้เยื่อหุ้มเส้นประสาท (Myelin sheath) เสื่อมสภาพ ทำให้การส่งสัญญาณประสาทผิดปกติ นำไปสู่อาการชา ปวด และอ่อนแรง โดยอาการมักเริ่มจากปลายมือปลายเท้าก่อนลามเข้าสู่ส่วนกลางของร่างกาย
3. การได้รับสารพิษ
การสัมผัสสารพิษและสารเคมี เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะปลายประสาทอักเสบ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม เกษตรกร หรือผู้ที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีเป็นประจำ สารพิษเหล่านี้ เช่น ตะกั่ว ปรอท สารกำจัดศัตรูพืช หรือสารทำละลายอุตสาหกรรม สามารถซึมผ่านผิวหนังหรือทางการหายใจเข้าสู่ร่างกาย เมื่อสะสมเป็นเวลานาน จะทำลายโครงสร้างของเส้นประสาทโดยตรง ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและการเสื่อมของเส้นประสาทส่วนปลาย
4. การติดเชื้อไวรัสบางชนิด
การติดเชื้อไวรัสบางชนิดก่อให้เกิดภาวะปลายประสาทอักเสบได้ โดยเฉพาะไวรัสที่มีผลต่อระบบประสาท เช่น เชื้อไวรัสเริม (Herpes) ไวรัสตับอักเสบ หรือไวรัสเอชไอวี เมื่อเชื้อเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย อาจส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทได้สองทาง คือ การทำลายเส้นประสาทโดยตรง หรือกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีเนื้อเยื่อประสาทของตัวเอง ทำให้เกิดการอักเสบและการเสื่อมของเส้นประสาทส่วนปลาย ซึ่งอาจนำไปสู่อาการชา ปวด หรืออ่อนแรงได้
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น หากปล่อยให้ปลายประสาทอักเสบลุกลาม
- แผลที่เท้าจากการสูญเสียความรู้สึก ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเมื่อเกิดบาดแผล เสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรง
- การทรงตัวผิดปกติและเสี่ยงต่อการหกล้ม เนื่องจากระบบประสาทรับความรู้สึกที่เท้าทำงานผิดปกติ
- ผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน การขับรถ หรือกิจกรรมที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อน
วิธีบรรเทาอาการปวดจากโรคปลายประสาทอักเสบ
- การรับประทานยาตามแพทย์สั่ง เพื่อควบคุมอาการปวดและการอักเสบ
- การทำกายภาพบำบัด ช่วยฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท
- การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การหยุดพักเป็นระยะ การปรับท่าทางการทำงาน
- การออกกำลังกายที่เหมาะสม เน้นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหวแบบเบาๆ
สรุป โรคปลายประสาทอักเสบเป็นภาวะที่ไม่ควรมองข้าม
การสังเกตอาการตั้งแต่เริ่มแรกและเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น คลินิกกายภาพบำบัดของเรามีความเชี่ยวชาญในการรักษาผู้ป่วยโรคปลายประสาทอักเสบ ด้วยเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย เช่น เครื่องช็อคเวฟ และ เครื่อง PMS ที่ช่วยลดการอักเสบ และกระตุ้นการซ่อมแซมของเส้นประสาท พร้อมทีมนักกายภาพบำบัดมืออาชีพที่จะออกแบบโปรแกรมการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้าใช้บริการ The Commons Clinic ได้ที่ :
- ที่ตั้ง : 388 ถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 (https://goo.gl/maps/sbT1J8wUKgy4mQPF8)
- เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. – 19.00 น.
- เบอร์โทรศัพท์ : 094-694-9563
- Line OA : @thecommonsclinic
- Facebook : The Commons Clinic – คลินิกเฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู และ กายภาพบำบัด