ในปัจจุบันแทบจะเห็นทุกที่ ทั้งในบ้าน สำนักงาน แม้กระทั้งเดินไปตามถนนก็เห็น ในการก้มหน้า ก้มตานานๆ เล่นมือถือ ติดจอคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ นานๆ เป็นปัญหาที่แย่ลงเมื่อผู้คนใช้เวลาส่วนมาก กับอุปกรณ์เทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งมีผล หรือบางครั้งเรียกว่า “Tech Neck” เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ก้มศีรษะลงเพื่อดูอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นานเกินไปทำให้เกิดอาการ ปวดคอ และรวมถึงอาการออฟฟิศซินโดรมด้วย เพราะเกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ  เนื่องจากสามารถส่งผลต่อการปวดดึงกล้ามเนื้อ และข้อของเส้นเอ็นที่อยู่ในบริเวณคอ บ่า ไหล่ได้

อะไรทําให้เกิด  Tech Neck ปวดคอ บ่า ไหล่

1.การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

เมื่อใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หลายๆ คนมักจะก้มศีรษะไปข้างหน้า และก้มคางลง ทำให้ศีรษะยื่นออกมาด้านหน้าไหล่ ท่านี้ทำให้เกิดความตึงเครียดที่คอเป็นพิเศษ เนื่องจากกล้ามเนื้อ และโครงสร้างต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรองรับน้ำหนักของศีรษะ  กล้ามเนื้อเหล่านี้อาจเกิดอาการดึง เหนื่อย และเจ็บมากเกินไปจากการมองลงไปที่สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตตลอดทั้งวัน นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า Tech Neck

2.ใช้เวลาอยู่หน้าจอเป็นเวลานาน

การใช้เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป ไม่ว่าจะไปทำงานหรือพักผ่อน อาจทำให้มีท่าทางที่ไม่ดี และเมื่อยคอเป็นเวลานาน 

3.การเคลื่อนไหวซ้ำๆ

เช่น การส่งข้อความ ท่องเว็บ หรือเล่นเกมบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บ่อยครั้งมักเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวนิ้ว และข้อมือซ้ำๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อคอ ไหล่ และหลังส่วนบน

4.ความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ

กล้ามเนื้อคอ ไหล่ และหลังส่วนบนอาจเกิดอาการเหนื่อยล้าเมื่อยกไปข้างหน้า หรืองอเป็นเวลานาน ความเหนื่อยล้านี้สามารถนำไปสู่ความรู้สึกไม่สบาย และความเจ็บปวดได้

5.เพิ่มภาระที่กระดูกสันหลัง

เมื่อศีรษะเอียงไปข้างหน้า น้ำหนักที่ศีรษะบนกระดูกสันหลังจะเพิ่มขึ้น ยิ่งเอียงมากเท่าไร คอ และหลังส่วนบนก็จะยิ่งตึงมากขึ้นเท่านั้น

6.การสูญเสียส่วนโค้งตามธรรมชาติ

ท่าทางที่ไม่ดีเมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้สูญเสียความโค้งตามธรรมชาติในกระดูกสันหลัง รวมถึงส่วนโค้งของคอ ซึ่งอาจส่งผลให้แนวกระดูกสันหลังผิดปกติได้

7.อาการปวดตึง

อาการตึงบนโครงสร้างรองรับ Tech Neck อาจทำให้เอ็น แผ่นดิสก์ กระดูกสันหลังบริเวณคอ และกระดูกสันหลังส่วนบนตึงได้ เมื่อเวลาผ่านไป ความเครียดนี้อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เสื่อม หรือมีปัญหาเกี่ยวข้องกัลแผ่นดิสก์

จะป้องกัน Tech Neck ปวดคอ บ่า ไหล่ได้อย่างไร?


คนส่วนใหญ่บอกว่าให้นั่งตัวตรงเมื่อทํางานกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจเป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้องมากนัก เพราะเมื่อนั่งหลังตรง ไม่เพียงแต่ใช้แรงมากกับแผ่นดิสก์ที่หลังส่วนล่างเท่านั้น แต่กล้ามเนื้อที่ด้านหลังของคอต้องหดตัวเพื่อยกศีรษะขึ้น ดังนั้น หากนั่งตัวตรงเป็นเวลาหลายชั่วโมง อาจจบลงด้วยอาการปวดทั้งหลัง และคอ

วิธีที่ดีกว่าในการนั่งคือให้เก้าอี้เอนได้ 25 ถึง 30 องศา พร้อมการรองรับเอวที่ดีเพื่อป้องกันตำแหน่างไม่สมดุลในตําแหน่งนี้ โดยแผ่นดิสก์ที่ด้านหลัง และคอจะได้รับแรงกดต่ำกว่าในท่าที่นั่งตัวตรงมากนัก การนั่งเก้าอี้เอนแบบ 25 ถึง 30 องศา ทำให้กล้ามเนื้อที่ด้านหลังของคอไม่จําเป็นต้องหดตัวเพื่อยกศีรษะขึ้นอีกต่อไป

เมื่อทำการเอนหลัง ส่วนหนึ่งของน้ําหนักที่ร่างกาย จะลงไปที่เก้าอี้ แทนที่จะกดตรงกระดูกสันหลังของคุณ ดังนั้นกระดูกสันหลังจึงได้รับแรงกดน้อยลงมาก และเป็นผลให้คุณเจ็บน้อยลงมาก

​​อาการของ Tech Neck ปวดคอ บ่า ไหล่

  • ปวดหัว
  • ความตึงเครียดที่หลังส่วนบน
  • ปัญหาข้อต่อ Temporomandibular (TMJ)
  • ปวดหรือมีความผิดปกติในข้อต่อ และกล้ามเนื้อ
  • รู้สึกเสียวซ่าหรือชาที่มือ

หากมีอาการปวดคอ  บ่า ไหล่ จะบรรเทาอาการได้อย่างไร?

1.ลุกขึ้น และเคลื่อนไหวอยู่บ่อยๆ

หากนั่งทำงานที่ออฟฟิศอย่างน้อยก็ควรเคลื่อนไหวทุก ๆ 15 ถึง 30 นาที ควรลุกขึ้น และเดินไปรอบๆ เพราะจะทําให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก และจะทําให้คออยู่ในตําแหน่งอื่นที่ไม่ได้อยู่ตำแหน่งเดิมซ้ำๆ ไม่เพียงแต่ดีต่อแค่คอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วย เช่น หลังส่วนบน ปวดหลังส่วนล่าง และบ่าได้

2.หาเก้าอี้ที่ปรับเอนได้พร้อมการรองรับเอว

การนั่งบนเก้าอี้ ลองปรับเอนหลังให้มากที่สุดในขณะที่ทํางาน เพราะจะทําให้กล้ามเนื้อคอคลายเครียด 

ปวดคอ

วิธีป้องกันอาการปวดคอ บ่า ไหล่

เพื่อช่วยป้องกันอาการ ปวดคอ บ่า ไหล่ ให้คํานึงถึงท่าทางในขณะที่ใช้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต ถือโทรศัพท์ให้อยู่ในระดับสายตาเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องมองลง และงอคอ และดีกว่านี้ถ้านั่งอยู่บนเก้าอี้ 

เพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดคอ บ่า ไหล่ จากการใช้คอมพิวเตอร์ ให้วางตําแหน่งจอภาพหรือหน้าจอของในลักษณะให้มองตรงๆ อย่างอคอลง หรือไปข้างหน้า

วิธีอื่นๆ ที่ช่วยปรับปรุงอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ได้แก่:

-วางหน้าจอให้ห่างจากดวงตาของคุณ 20-30 นิ้ว (ประมาณความยาวของแขน)

-ใช้จอภาพคอมพิวเตอร์หรือขาตั้งแล็ปท็อปเพื่อช่วยยกระดับหน้าจอให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 

-รักษาข้อมือให้ตรง และงอข้อศอกประมาณ 90 องศา

-ให้เข่าอยู่ในแนวกับสะโพก และเท้าราบกับพื้น

The Commons Clinic จะช่วยคุณได้อย่างไร?

The Commons Clinic คลินิกกายภาพบำบัด และเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ให้บริการด้านการให้คำปรึกษา ตรวจ และรักษาทางกายภาพบำบัดครบวงจร ดูแลโดยทีมแพทย์ และนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์ พร้อมเครื่องมือทางกายภาพบำบัดที่ทันสมัย เช่น เครื่องช็อคเวฟ (Shock Wave)และเครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ไม่ว่าคุณจะมีอาการออฟฟิศซินโดรม ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ปวดข้อต่อ มีอาการชาที่ปลายนิ้วมือ แขนขาอ่อนแรง ข้อเข่าเสื่อม หรือได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือออกกำลังกาย ก็สามารถให้เราดูแลได้! เราพร้อมทำการรักษาที่ต้นเหตุด้วยเทคโนโลยีกายภาพบำบัดสมัยใหม่ พร้อมแนะนำท่าบริหารเฉพาะปัญหาของแต่ละบุคคล รับรองว่าอาการปวดดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำอย่างแน่นอน

หากคุณไม่แน่ใจว่ากำลังเผชิญอยู่กับอาหาร ปวดคอ บ่า ไหล่ อยู่หรือไม่  อย่าปล่อยทิ้งไว้จนอาการหนัก สามารถนัดหมาย หรือเข้ามาปรึกษาแพทย์ ได้ที่ thecommonsclinic.com ได้เลย

The Commons Clinic เรามีทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดปริญญาให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด พร้อมเครื่องมือกายภาพบำบัดที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น เครื่อง Shock Wave หรือ เครื่อง PMS มีการตรวจประเมินร่างกายและวางแผนรักษาเฉพาะบุคคลก่อนทุกครั้ง มั่นใจได้เลยว่า จะช่วยให้อาการปวดของคุณดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำอย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้าใช้บริการ The Commons Clinic ได้ที่ :

  • ที่ตั้ง : 388 ถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 (https://goo.gl/maps/sbT1J8wUKgy4mQPF8)
  • เวลาทำการ​ : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. – 19.00 น.
  • เบอร์โทรศัพท์ : 094-694-9563

ขอบคุณข้อมูลจาก : everyday health

24/01/67 เวลา 01:01 น.