ปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง รักษายังไง อันตรายไหม ทำไมต้องให้ความสำคัญ!
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ เป็นหนึ่งในอาการปวดยอดฮิตของพนักงานออฟฟิศเลย ไม่ว่าจะหันไปมองคนรอบตัวคนไหน จะเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้า ก็ต้องมีสักคนสองคนที่มีอาการปวดเหมือนกับเราแน่นอน แล้วอาการปวด คอ บ่า ไหลที่เกิดขึ้นนี้ มีสาเหตุมาจากอะไร? อันตรายไหม? มีวิธีแก้ไข หรือรักษาอาการให้ดีขึ้นไหม? The Commons Clinic (เดอะ คอมมอนส์ คลินิก) จะพาคุณไปหาคำตอบเอง จะน่าสนใจแค่ไหน ไปดูกัน!
ปวดคอ บ่า ไหล่ อันตรายไหม ทำไมถึงต้องให้ความสำคัญ?
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ไม่ได้เป็นอันตรายและส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพร่างกายอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ควรเพิกเฉย เพราะอาการปวดเหล่านี้มักเป็นสัญญาณเตือนของโรคยอดฮิตอย่างออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ซึ่งถ้าหากเราไม่ทำการดูแลตนเองตั้งแต่เนิ่น ๆ ปล่อยให้มีการกระตุ้นให้เกิดอาการปวดซ้ำ ๆ ก็อาจทำให้เป็นโรคนี้ได้โดยไม่รู้ตัว
ปวดคอ บ่า ไหล่ สาเหตุเกิดจากอะไร?
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ จะมีสาเหตุหลักมาจากการทำอิริยาบถที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น ในชีวิตประจำวัน หรือทำงาน จนกระตุ้นให้กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ถูกใช้งานซ้ำ ๆ จนเกิดอาการตึง และทำให้เกิดอาการปวดตามมา ยกตัวอย่างเช่น
- นอนคว่ำเป็นประจำ หรือนอนหมอนสูงเกินไป
- มีนิสัยชอบสะบัดคอ สะบัดผม
- ชอบก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นประจำ
- นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม เช่น ยกไหล่พิมพ์งานตลอดเวลา หรือต้องก้ม หรือเงยหน้ามองจอคอมพิวเตอร์ หรือนั่งทำงานบนเก้าอี้ที่ไม่รองรับสรีระร่างกาย เป็นต้น
ปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง รักษายังไง?
หากคุณมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ นาน ๆ ครั้ง ก็อาจเป็นอาการปวดทั่วไปที่ไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง หรือมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ร่วมกับปวดสะบัก ปวดร้าวลงไปที่ขา หรือมีอาการชาที่นิ้วมือ ฝ่ามือ หรือแขน นั่นแสดงว่าอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ได้พัฒนาระดับความรุนแรงจนกลายเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมแล้ว หรือในบางคนอาจร้ายแรงถึงขั้นเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จำเป็นที่จะต้องไปพบแพทย์ หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อตรวจประเมินอาการ และเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการที่เหมาะสมทันที
โดยแนวทางการรักษาอาการปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง มักเริ่มจากการใช้ยาบรรเทาอาการปวด ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด และฝึกปรับท่าทางให้เหมาะสมก่อน แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ไม่ตอบสนองต่อการรักษา แพทย์ก็จะแนะนำให้รักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเป็นทางเลือกสุดท้าย
วิธีรักษาปวดคอ บ่า ไหล่ ด้วยกายภาพบำบัดที่ The Commons Clinic
หากคุณมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หรือมีอาการในกลุ่มออฟฟิศซินโดรม อย่าปล่อยให้อาการปวดรุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และสุขภาพร่างกายในระยะยาว สามารถนัดหมายเข้ามาทำกายภาพบำบัดที่ The Commons Clinic ได้เลย เรามีทีมแพทย์และนักกายภาพบำบัดพร้อมให้การรักษาอย่างใกล้ชิด ด้วย 5 ขั้นตอนที่ช่วยฟื้นฟูอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หายปวดตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
1. ตรวจประเมินอาการ และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
แพทย์และนักกายภาพบำบัดของเรา จะทำการตรวจร่างกายของผู้เข้ารับการรักษาอย่างละเอียด เพื่อประเมินอาการ หาจุดปวด และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด มั่นใจได้เลยว่า จะได้รับการรักษาที่ต้นตอของสาเหตุอย่างแน่นอน
2. ใช้แผ่นประคบร้อน (Hot Pack) เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
หลังจากที่ตรวจประเมินอาการแล้ว นักกายภาพบำบัดจะให้นอนประคบร้อน เพื่อให้ความอุ่นเข้าไปช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึงเกร็งคลายตัวลง และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษาด้วยเครื่องกายภาพบำบัดได้มาก
3. ใช้เครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS
นักกายภาพบำบัดจะใช้เครื่องกระตุ้นระบบประสาทด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS เข้าไปทำให้กล้ามเนื้อชั้นลึกที่ตึงเกร็ง เกิดการหดและคลายตัวลง พร้อม ๆ กับกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดและทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกผ่อนคลายมาก
นอกจากนี้เครื่อง PMS ยังสามารถช่วยกระตุ้นการรับรู้ของระบบประสาท และช่วยให้ฟื้นฟูกลับมาทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ใช้เครื่องรักษาด้วยคลื่นกระแทก Shock Wave
เครื่อง PMS จะรักษาเป็นวงกว้าง ในขณะที่เครื่องรักษาด้วยคลื่นกระแทก Shock Wave จะสามารถใช้รักษาอาการปวดกล้ามเนื้อเฉพาะจุดได้ดีกว่า นักกายภาพบำบัดจึงเลือกใช้เครื่อง Shock Wave ในการเก็บรายละเอียดส่วนที่เครื่อง PMS เข้าไม่ถึง
เครื่อง Shock Wave นั้น จะทำการรักษาโดยการส่งคลื่นกระแทกเข้าไปที่กล้ามเนื้อ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบาดเจ็บใหม่ และทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อมีการสร้างและซ่อมแซมใหม่อีกครั้ง พร้อม ๆ กับกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ 50% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ใครที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ สะบัก มาก ๆ ต้องไม่พลาดเครื่องนี้เลย
5. แนะนำท่าบริหารร่างกายให้กลับไปทำต่อที่บ้าน เพื่อลดอาการปวดคอ บ่า ไหล่
หลังจากที่รักษาด้วยเครื่องมือกายภาพบำบัดที่ทันสมัยแล้ว นักกายภาพบำบัดของเราจะสอนท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อ และท่าบริหารร่างกายที่เหมาะสมกับแต่ละคน เพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษานำกลับไปทำต่อที่บ้าน ซึ่งจะช่วยให้ฟื้นฟูอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ได้เป็นอย่างดี และลดโอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำอีก
นอกจากทำกายภาพบำบัด ยังมีวิธีรักษาอาการปวดคอ บ่า ไหล่ อื่น ๆ อีกไหม?
นอกจากการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดแล้ว การฝังเข็มก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถใช้บรรเทาอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ได้เช่นกัน ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบแพทย์แผนตะวันตก และแพทย์แผนจีน แต่จะมีหลักการรักษาคล้าย ๆ กัน คือ แพทย์จะทำการฝังเข็มไปที่จุดปวด เพื่อให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้สะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้นั่นเอง
สรุปเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับอาการปวดคอ บ่า ไหล่
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ เป็นอาการที่พบได้บ่อยในพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นประจำ เพราะเป็นอาการเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม และโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เมื่อเกิดอาการขึ้นแล้ว ก็ควรที่จะไปปรึกษานักกายภาพบำบัดเพื่อทำการรักษาและป้องกันอย่างเหมาะสม ซึ่งจะสามารถช่วยให้อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ดีขึ้นและหายขาดได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้าใช้บริการ The Commons Clinic ได้ที่ :
- ที่ตั้ง : 388 ถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 (https://goo.gl/maps/sbT1J8wUKgy4mQPF8)
- เวลาทำการ : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. – 19.00 น.
- เบอร์โทรศัพท์ : 094-694-9563
- Line OA : @thecommonsclinic
- Facebook : The Commons Clinic – คลินิกเฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู และ กายภาพบำบัด
