Stretching คืออะไร? ความสำคัญของการยืดเหยียดร่างกายบ่อยๆ

การยืดเหยียดร่างกายหรือ Stretching จริงๆ แล้วเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นตอนตื่นนอน ระหว่างวัน หรือแม้แต่ก่อนนอน เมื่อทำ Stretching จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา และบรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการนั่งทำงานนานๆ ได้ คลินิกกายภาพบำบัด เดอะคอมมอนส์คลินิก (The Commons Clinic) จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Stretching และประโยชน์ที่จะได้รับกันดีกว่า

Stretching คืออะไร?

Stretching คือ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อและเอ็น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและช่วงการเคลื่อนไหวของข้อต่อ (Range of Motion) การทำ Stretching อย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ยืดหยุ่น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งการยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพร่างกายด้วย เนื่องจากช่วยรักษาความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา

ประเภทของการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching)

ประเภทของการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching)

1. Static Stretching

Static Stretching เป็นการยืดกล้ามเนื้อค้างไว้ในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลา 15-30 วินาที โดยไม่มีการเคลื่อนไหว เป็นวิธีที่นิยมใช้มากที่สุดและเหมาะสำหรับการยืดเหยียดหลังการออกกำลังกาย เพราะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี

ข้อดีของ Static Stretching

  • ง่ายและปลอดภัยสำหรับผู้เริ่มต้น
  • เหมาะสำหรับการคลายกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย
  • ช่วยลดอาการปวดเมื่อยและตึงกล้ามเนื้อ

2. Dynamic Stretching

Dynamic Stretching เป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อพร้อมกับการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง เช่น การแกว่งแขน การยกเข่าสูง หรือการเตะขา วิธีนี้เหมาะสำหรับการอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา

ข้อดีของ Dynamic Stretching

  • เพิ่มอุณหภูมิร่างกายและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  • ช่วยเตรียมกล้ามเนื้อสำหรับการออกกำลังกาย
  • ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บระหว่างออกกำลังกาย

3. PNF Stretching

PNF Stretching (Proprioceptive Neuromuscular Facilitation) เป็นเทคนิคขั้นสูงที่ผสมผสานการยืดเหยียดและการเกร็งกล้ามเนื้อ โดยมักต้องมีผู้ช่วยหรือนักกายภาพบำบัดคอยช่วยเหลือ ดูแลอย่างใกล้ชิด วิธีนี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและกำลังของกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขั้นตอนการทำ PNF Stretching

  1. ยืดกล้ามเนื้อจนถึงจุดที่รู้สึกตึง
  2. เกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ 5-6 วินาที
  3. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ 2-3 วินาที
  4. ยืดกล้ามเนื้อเพิ่มอีกครั้ง

ทำไมการ Stretching จึงสำคัญต่อร่างกาย?

Stretching นอกจากจะช่วยเตรียมความพร้อมให้ร่างกายก่อนออกกำลังกายแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

1. ประโยชน์ของ Stretching ต่อกล้ามเนื้อและข้อต่อ

เมื่อทำ Stretching จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อและเอ็น ข้อต่อต่างๆ สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการตึงและปวดกล้ามเนื้อที่อาจเกิดขึ้นจากการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน การ Stretching อย่างสม่ำเสมอยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนไหว ท่าทางการเคลื่อนไหวถูกต้อง ส่งผลให้บุคลิกภาพของเราดูดีขึ้นด้วย

2. ผลดีต่อการไหลเวียนเลือด

การยืดเหยียดกล้ามเนื้อมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดภายในร่างกาย โดยช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ทำให้เลือดสามารถนำพาออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์กล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยในการกำจัดของเสียออกจากกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น ส่งผลให้อาการบวมและการอักเสบลดลง และทำให้กล้ามเนื้อสามารถฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้นหลังการออกกำลังกายหรือการบาดเจ็บ

3. การป้องกันการบาดเจ็บและอาการปวดเมื่อย

การยืดเหยียดกล้ามเนื้อถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการบาดเจ็บของร่างกาย โดยช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการออกกำลังกาย และยังช่วยป้องกันอาการปวดเมื่อยที่มักเกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน เช่น ท่ายืดกล้ามเนื้อแขน หรือท่าบริหารแก้ปวดหลังปวดเอว นอกจากนี้การ Stretching ยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อที่เกิดจากความเครียด ลดโอกาสการฉีกขาดของกล้ามเนื้อและเอ็น รวมถึงช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหลังจากได้รับบาดเจ็บ

เมื่อไหร่ที่ควรทำ Stretching บ้าง?

เมื่อไหร่ที่ควรทำ Stretching บ้าง

  • ก่อนและหลังการออกกำลังกาย

ควรทำ Stretching ทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกาย โดยการยืดเหยียดก่อนออกกำลังกายจะช่วยเตรียมความพร้อมให้กล้ามเนื้อและข้อต่อ เพิ่มอุณหภูมิร่างกายและการไหลเวียนเลือด ส่วนการยืดเหยียดหลังออกกำลังกายจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตัว บรรเทาอาการปวดเมื่อย และช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

  • ระหว่างวันโดยเฉพาะเมื่อนั่งทำงานนานๆ

นอกจากนี้ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อระหว่างวันโดยเฉพาะในช่วงที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน ยังช่วยบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดี โดยจะช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อคอและบ่า ป้องกันอาการปวดหลัง และช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ส่งผลให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ลดความเมื่อยล้า และมีสมาธิในการทำงานมากขึ้นด้วย

  • ก่อนนอนเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

การยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนนอนเป็นอีกช่วงเวลาที่สำคัญ เนื่องจากช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อที่สะสมมาตลอดทั้งวัน ช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับที่เกิดจากความเมื่อยล้า และยังช่วยให้ร่างกายพร้อมสำหรับการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ

สรุป ทำ Stretching อย่างสม่ำเสมอ มีประโยชน์ต่อสุขภาพในระยะยาว

การยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและป้องกันการบาดเจ็บเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว ทั้งการทรงตัว การเคลื่อนไหว และคุณภาพชีวิตโดยรวม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังหรือปวดรุนแรง การรักษาด้วยเครื่องช็อคเวฟ (Shock Wave) อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะช่วยบรรเทาอาการปวดและฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างถูกวิธี นักกายภาพบำบัดที่เดอะคอมมอนส์คลินิก จะช่วยประเมินและออกแบบโปรแกรมการยืดเหยียดที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ พร้อมคำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับเทคนิคทำ Stretching ที่ถูกต้อง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้าใช้บริการ The Commons Clinic ได้ที่ :

20/01/68 เวลา 00:44 น.